วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ปัญหาทางด้านซอฟต์แวร์และแนวทางแก้ไข

1 ปัญหา Application Error (0xc0000005) บน Window 7

การแก้ปัญหา

กดปุ่มคีย์ลัด Windows + R สำหรับเปิดหน้าต่าง Run

แล้วพิมพ์ services.msc -> กด OK

ดับเบิ้ลคลิกหัวข้อ Windows Update ขึ้นมา

ที่ Startup Type: เลือกเป็น Disabled
Service status: เลือกเป็น Stop

แล้ว Apply -> OK ได้เลยครับ



2 ปัญหา D3DX9_43.dll (dll is Missing or Corrupt 


เมื่อไฟล์  D3DX9_43.dll หายไป (missing or corrupt) ในบางกรณีจะเกิดอาการ error ขึ้น

การแก้ปัญหา


1. แรก D3DX9_43.dll.zip 
2. extract file, ใส่ไว้ที่ D3DX9_43.dll: C:Windows\System32 (for windows XP,7,8), C:\WINNT\System32 (for windows nt & 2000)
3. เสร็จแล้ว ก็ restart เครื่อง 1 รอบ นะครับ
อ่าน "Read Me.txt" ในแฟ้ม (D3DX9_43.dll.zip)!!!

3 ปัญหา Error 0x000006d9 แชร์Printerไม่ได้ในwindows 7 และ windows 8



การแก้ปัญหา


ให้ไปที่ StartMenu ช่อง Run หรือ Search พิมพ์ services.msc
ไล่ลงไปดูที่ไฟล์ชื่อ windows firewall แล้วดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์ขึ้นมา ดูที่ service status : ด้านล่างจะเห็น Start-Stop-Pause-Resume ให้กด Stop แล้วก็กด Start อีกรอบลองแชร์Printerอีกรอบ

4 ปัญหา Windows Error Recovery



การแก้ปัญหา


วิธีการแก้ไขที่ 1 แก้ไขด้วยเมนู Last Known Good Configuration (Advanced) ซึ่งหัวข้อนี้ส่วนใหญ่ที่เห็นได้ชัดเจน ก็จะเป็นในเรื่องของการติดตั้งไดร์เวอร์ไม่ตรงรุ่น แล้วพอรีสตาร์ทเครื่องขึ้นมาใหม่ ถ้าต้องเจอกับอาการ Error จนไม่สามารถเข้าไปแก้ไขในระบบปฏิบัติการ Windows ก็ต้องเลือกหัวข้อนี้ ในการย้อนคืนข้อมูลกลับไปก่อนหน้าที่จะทำการติดตั้งไดร์เวอร์ตัวล่าสุด
วิธีที่ 2 แก้ไขด้วยการเรียกใช้งาน System Restore จากแผ่นติดตั้ง Windows 7 แต่ต้องเลือกใช้ตามระบบปฏิบัติ 32 บิต หรือ 64 บิตด้วย
แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่า System Type ของ Windows 7 ที่เราใช้งานอยู่เนี่ย เป็น 32 บิต หรือ 64 บิต
ส่วนวิธีการแก้ไขก็คลิกดูได้ตามเรื่องราวดังต่อไปนี้
วิธีที่ 3 ให้ Easy Recovery Essentials เข้ามาช่วยแก้ไขจุดบกพร่องให้
แต่ซอฟต์แวร์ Easy Recovery Essentials ที่ผมจะแนะนำอาจจะไม่โดนใจใครหลายๆคนสักเท่าไร ส่วนหนึ่งก็เพราะมันเป็นซอฟต์แวร์ที่เราต้องเสียเงินซื้อในราคา 19.75 เหรียญ ซึ่งทาง neosmart เขาก็ยืนยันว่าซอฟต์แวร์ของเขาสามารถช่วยแก้ไขอาการ Windows Error Recovery ได้จริง และมีความรวดเร็วกว่าการใช้ซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆมาช่วยแก้ไข ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ สามารถรองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการได้ตั้งแต่ Windows XP จนถึง Windows Server 2012 กันเลยทีเดียว
โดยซอฟต์แวร์ Easy Recovery Essentials เมื่อเราซื้อผ่านเว็บไซต์แล้ว ก็จะต้องดาวน์โหลดไฟล์มาลงเครื่องเป็นอันดับแรก และจะเป็นไฟล์อิมเมจ .ISO ที่จะต้องนำมาเขียนลงแผ่น CD/DVD อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเรียกใช้โปรแกรม Easy Recovery Essentials ขึ้นมา ก็ให้เลือกหัวข้อ Automated Repair จะเป็นการซ่อมแซมอาการ Windows Error Recovery ให้ระบบ Windows ในเครื่องของเรานั่นเอง
แล้วตัวซอฟต์แวร์ก็จะทำการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้โดยอัตโนมัติ
เมื่อสั่งรีสตาร์ทเครื่องใหม่ ก็จะสามารถเข้าสู่ระบบตามปกติได้ทันทีครับ
ท่านใดสนใจอยากใช้ Easy Recovery Essentials มาช่วยแก้ไขปัญหา Windows Error Recovery สามารถคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://neosmart.net/EasyRE/


5 ปัญหา NET Framework Initialization Error




การแก้ปัญหา


วิธีแก้ อาการ NET Framework Initialization Error Windows 7
หลายคนเจอปัญหาแล้วหาวิธีแก้ไม่ได้ ลง NET Framework ใหม่ก็ไม่ได้
หรือลงได้ก็ไม่หาย เคลียร์แล้วลงไหม่ ก็ไม่ได้ ทำทุกวิธีแล้วไม่หายให้ทำตามนี้ครับ


ลองทำตามนี้ดูครับ
1. เปิด Notepad
2. ใส่ Code นี้ลงไป

REGEDIT4

[HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\.NETFramework]
"InstallRoot"="c:\\WINDOWS\\Microsoft.NET\\Framework\\"

3. Save ไฟล์ไปที่ C:\Reset.REG ตั้งชื่อแบบนี้เลยครับ
4. แล้วก็ไป double-clcik ที่ไฟล์ Reset.REG
5. Click 'OK' ก็ใช้ได้แล้วครับ หา AIO Runtimes (All in One Runtimes)
มา Run ลง NET Framework ได้เลยครับ
ถ้าลง NET Framework 4.0 ไม่ได้ ให้ทำตามนี้ครับ
ก่อนการติดตั้ง. NET Framework 4.0,
 1.เปิด cmd
 2.พิมพ์คำสั่ง "net stop wuauserv" (ปิดการใช้งาน Windows Update)
 3.ไปที่ Run (คุณสามารถทำได้โดยการกด  Win + R ) และพิมพ์ "% windir%" (คำสั่งนี้จะบอกให้คุณไปที่โฟลเดอร์ระบบ windows ของคุณ)
 4.ค้นหาโฟลเดอร์ "SoftwareDistribution" และเปลี่ยนชื่อเป็น "SDold"
 5.จากนั้นกลับไปที่คำสั่งก่อนหน้าของคุณ prompt และเรียกใช้คำสั่ง "wuauserv net start" (เปิดการใช้งาน Windows Update)
 6.แล้วติดตั้ง. NET Framework อีกครั้ง windows จะสร้างโฟลเดอร์ SoftwareDistribution ขึ้นมาใหม่

การติดตั้งควรใช้ AiO-Runtimes หรือลงตั้งแต่ NET Framework 1.1 ขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ ถึง 4.0 

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Internet of Things (IOT)

Internet of Things (IOT)


                    เทคโนโลยี Internet of Things (ioT) หรือ อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่งหมายถึง การที่สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการ ควบคุมใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การสั่งเปิด-ปิด อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องมือทางการเกษตร เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร บ้านเรือน เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยเทคโนโลยีนี้จะเป็นทั้งประโยชน์อย่างมหาศาล และความเสี่ยงไปพร้อมๆ กัน เพราะหากระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่ดีพอ จะทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามากระทำการที่ไม่พึงประสงค์ต่ออุปกรณ์ข้อมูลสารสนเทศหรือความเป็นส่วนตัวของบุคคลได้ ดังนั้น การพัฒนาไปสู่ Internet of Things จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนามาตรการและเทคนิคในการรักษาความปลอดภัยไอทีควบคู่กันไปด้วย
                    หรือบางแห่งเรียก M2M ย่อมาจากMachine to Machine คือ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมอุปกรณ์กับเครื่องมือต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ตู้เย็น โทรทัศน์ และอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยการเชื่อมโยงช่วยให้สื่อสารกันได้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต จากการคาดการณ์ ในปี ค.ศ. 2020 สิ่งต่างๆ กว่าแสนล้านชิ้นจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยระบบ IoT ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคทั่วไปจะเริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยีที่ทำให้พวกเขา สามารถควบคุมสิ่งของต่างๆ ทั้งจากในบ้านและสำนักงานหรือจากที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
                    ในหลายๆ ประเทศ เริ่มติดตั้งป้ายทะเบียนรถ หรือป้ายจ่ายค่าทางด่วนเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทยก็เช่นกันซึ่งจะเป็ นประโยชน์ต่อ การตรวจสอบทะเบียนรถที่วิ่งผ่าน รวมถึงยังสามารถติดตามรถสูญหายได้รวดเร็วขึ้น เพราะมีสัญญาณบอกตำแหน่งที่ตั้งของรถได้ การรักษาความปลอดภัยด้าน IT จะเน้นไปทาง "การรักษาความปลอดภัยดิจิตอล" เพื่อรองรับกับความท้าทายใหม่ๆ เช่น Internet of Things เนื่องจากแนวโน้มเช่น "Bring Your Own Device" สำหรับพนักงานที่มีสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ Internet of Things (IoT) ที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภคต่างก็จะเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายในรูปแบบที่ไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน ดังนั้นกลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยด้านไอทีที่เคยถูกกำหนดหรือจัดทำไว้แต่เดิม จะต้องมีการปรับเปลี่ยนขยายตัว โดยการขยายตัวนี้นักวิเคราะห์ของ Gartner แจ้งว่าจะนำไปสู่งานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น จะมีการเพิ่มตำแหน่งงาน "เจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยงดิจิตอล" ที่จะต้องมีหน้าที่คิดและกำหนดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ "นวัตกรรมดิจิตอล" ทุกชนิดที่ธุรกิจนำมาใช้เพิ่มขึ้นมา
                    บทบาทของเจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยงดิจิตอล คือการประเมินทุกด้านของการเชื่อมต่อดิจิตอล รวมถึงสถานที่ที่มีการเชื่อมต่อทุกอย่างที่มาจาก IoT ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาความปลอดภัยสามารถแบ่งย่อยออกเป็นล้านๆ ส่วนได้ในกรณีที่จำเป็น นวัตกรรมดิจิตอลใดๆ จะต้องได้รับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยงดิจิตอล ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการคาดหวังว่าจะสามารถกำกับดูแลงานที่ปกติ CISO (Chief Information Security Officer) ทำอยู่ เช่น การรักษาความปลอดภัยเครือข่ายองค์กรและการปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ได้
                    Gartner ยังได้ประกาศ "top trend" ด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับธุรกิจดิจิตอล (digital business) ด้วย โดย Gartner ได้ให้คำนิยาม digital business ว่าเป็น "การสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่โดยการทำให้ภาพของโลกดิจิตอลและโลกความจริงทางกายภาพไม่ชัดเจน" ตามที่ Earl Perkins นักวิเคราะห์ของ Gartner กล่าวไว้นั้น ธุรกิจดิจิตอลหรือองค์กรดิจิตอล "ต้องทำให้ทรัพย์สินทั้งทางกายภาพเป็นทรัพย์สินในแบบนามธรรมหรือทรัพย์สินเสมือน" เช่น ทำให้ข้อมูลและกระบวนการธุรกิจเป็นรูปแบบดิจิตอลทั้งหมด เจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยงดิจิตอลจะได้รับมอบหมายให้ดูแลการรักษาความปลอดภัยทั้งด้านอุปกรณ์ทางกายภาพและข้อมูล รวมทั้ง IoT ด้วย
                    ซึ่งหมายความว่า การรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันนี้ "อยู่ในจุดสภาวะที่ติดเชื้อ" เขากล่าว การเพิ่มการรักษาความปลอดภัย IoT คือ "พื้นที่ของคุณกำลังจะถูกโจมตีด้านระบบความปลอดภัยที่คุณไม่ทราบมาก่อนว่ามันจะมา" ซึ่งอุปกรณ์ perimeter firewall แบบเดิมจะไม่รู้จักรูปแบบมาก่อน

แนวโน้มการรักษาความปลอดภัยดิจิตอลที่สำคัญ
(Top Digital Security)


















Smart Home




Smart City






Telemedicine